PU Non-slip

พื้น PU Non-slip (พื้นกันลื่น)

PU Non-slip (พื้นกันลื่น) หมายถึง พื้นหรือผิวที่มีการเคลือบด้วยโพลียูริเทน (Polyurethane – PU) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติที่ดีในการป้องกันการลื่นไถล (Non-slip) โดยเฉพาะในสถานที่ที่มีความเสี่ยงในการลื่นไถลเช่น พื้นห้างสรรพสินค้
คุณสมบัติของ พื้น PU Non-slip(พื้นกันลื่น)
  • ป้องกันการลื่น: ด้วยการเพิ่มพื้นผิวที่หยาบเล็กน้อยหรือเคลือบสารป้องกันการลื่น ทำให้พื้นผิวมีแรงเสียดทานเพิ่มขึ้น ลดความเสี่ยงในการลื่นไถล
  •  
  • ทนทานต่อการใช้งานหนัก: โพลียูรีเทนเป็นวัสดุที่มีความทนทานสูง สามารถทนต่อการเสียดสี น้ำหนัก และการใช้งานในระยะยาวได้ดี
  •  
  • ทนต่อสารเคมีและน้ำ: พื้นที่เคลือบ PU Non-slip สามารถทนทานต่อน้ำ ความชื้น และสารเคมีบางชนิด จึงเหมาะสำหรับใช้งานในโรงงานหรือพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการหกรั่วของของเหลว
  •  
  • ยืดหยุ่นสูง: เนื่องจากโพลียูรีเทนมีความยืดหยุ่น จึงสามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิได้ดีโดยไม่แตกร้าว
  •  
  • ทนทานต่อสภาพอากาศ: PU Non-slip สามารถทนต่อแสงแดด ความร้อน และสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงได้ดี จึงเหมาะสำหรับการใช้งานทั้งในร่มและกลางแจ้ง
  •  

♣ ความยืดหยุ่นและอ่อนโยน: พื้น PU Non-slip  มีความยืดหยุ่นและอ่อนโยนที่ช่วยให้ผิวพื้นสามารถทำงานได้ดีในเกณฑ์การสั่นสะเทือนหรือการเคลื่อนไหวของมวล

♣ ความทนทานต่อสภาพแวดล้อม: พื้น PU Non-slip มีความทนทานต่อการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ เช่น ความชื้น ความร้อน และสารเคมี

♣ การเสียดสีและมลพิษ:พื้น PU Non-slip มักมีการเคลือบที่สามารถป้องกันการเสียดสี และมลพิษจากสารเคมีต่าง ๆ ได้ เป็นวัสดุที่เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่ต้องการความสะอาดและปลอดภัย

♣ การลื่นไถลที่ต่ำ: พื้น PU Non-slip มีพื้นผิวที่มีการออกแบบพิเศษเพื่อลดการลื่นไถล ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงในการลื่นไถล เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว หรือพื้นที่ที่มีการเดินเกาะกระแทก

♣ ความสวยงามและความหลากหลายในการออกแบบ: พื้น PU Non-slip มีความหลากหลายในการออกแบบที่สามารถเลือกใช้ตามความต้องการของการตกแต่งพื้นที่ เช่น สีสัน ลวดลาย หรือพื้นผิวที่เรียบหรู

พื้น PU Non-slip เหมาะกับงานแบบไหน
  • พื้นโรงงานและโรงงานอุตสาหกรรม: ใช้เคลือบพื้นในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อป้องกันการลื่นไถลในขณะทำงาน
  •  
  • พื้นโรงพยาบาลและห้องปฏิบัติการ: เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นในพื้นที่ที่ต้องการความปลอดภัยสูง
  •  
  • พื้นสนามกีฬาและฟิตเนส: ใช้ในสนามกีฬาหรือห้องออกกำลังกายเพื่อป้องกันการลื่นจากเหงื่อหรือของเหลวที่อาจหก
  •  
  • พื้นห้องครัวและห้องน้ำ: ใช้ในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงเพื่อลดความเสี่ยงในการลื่นล้ม
  •  
  • พื้นทางเดินและบันได: ในอาคารสาธารณะหรือที่พักอาศัยเพื่อป้องกันการลื่นไถลขณะเดิน
  •  

♣ พื้น PU Non-slip สำหรับ ห้างสรรพสินค้า: เป็นที่น่าสนใจสำหรับการใช้งานในพื้นที่ที่มีการเดินเยอะๆ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่นไถลของลูกค้าหรือพนักงาน

♣ พื้น PU Non-slip สำหรับโรงงานและโกดัง: เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่การผลิตหรือโกดังที่มีการเคลื่อนไหวของสินค้าและยานพาหนะอยู่บ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ

♣ พื้น PU Non-slip สำหรับโรงงานอาหาร: เนื่องจาก PU Non-slip มีคุณสมบัติที่ดีในการทนทานต่อความชื้นและสารเคมี เหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง เช่น โรงงานอาหารหรือห้องครัว

♣ พื้น PU Non-slip สำหรับ สถานที่ท่องเที่ยว: เช่น โรงแรม รีสอร์ท หรือสนามกีฬา เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้เยี่ยมชมสามารถเดินทางได้อย่างปลอดภัยในพื้นที่ที่มีการเดินเยอะๆ

♣ พื้น PU Non-slip สำหรับสถานที่บริการสุขภาพ: เช่น ฟิตเนส สปา หรือศูนย์การแพทย์ เพื่อให้ลูกค้าหรือผู้ใช้บริการสามารถเดินเข้าไปในพื้นที่เหล่านี้ได้อย่างปลอดภัย

ข้อดี – ข้อเสีย พื้น PU Non-slip
ข้อดี

♣ พื้น PU Non-slip ช่วยลดความเสี่ยงในการลื่นไถลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับใช้ในพื้นที่ที่มีความเสี่ยง เช่น ห้องน้ำ ห้องครัว 

♣ พื้น PU Non-slip เป็นวัสดุที่ทนทานต่อสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงได้ 

♣ พื้น PU Non-slip ง่ายต่อการดูแลรักษา สามารถทำความสะอาดได้ด้วยวิธีทั่วไป เช่น ใช้ผ้าชุบน้ำอ่อนๆ เช็ดได้

♣ พื้น PU Non-slip มีหลายลวดลาย สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการของการตกแต่งพื้นที่ เช่น สีสัน ลวดลาย 

♣ พื้น PU Non-slip มีการติดตั้งที่ง่ายและรวดเร็ว สามารถนำมาใช้กับพื้นหรือผิวสำเร็จรูปได้โดยไม่ต้องใช้เวลาหรือค่าใช้จ่ายในการทำการติดตั้งมากนัก

♣ พื้น PU Non-slip มีความหลากหลายในสีและลวดลาย ซึ่งช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนการตกแต่งตามสไตล์หรือการใช้งานของพื้นที่ได้อย่างสะดวกสบาย

ข้อเสีย – พื้น PU Non-slip

♣ พื้น PU Non-slip ราคาที่สูง: พื้น PU Non-slip มักมีราคาที่สูงกว่าวัสดุพื้นทั่วไป เนื่องจากมีคุณสมบัติพิเศษในการป้องกันการลื่นไถล 

♣ การซ่อมแซมที่ยากลำบาก: ในกรณีที่พื้น PU Non-slip เสื่อมสภาพ การซ่อมแซมอาจจะยากลำบากและมีความยุ่งยากมากขึ้น เนื่องจากต้องทำการเคลือบใหม่หรือทำการซ่อมแซมบนพื้นที่ที่มีสีและลวดลายคล้ายเดิม

♣ การสารพิษ: การผลิตหรือการใช้พื้น PU Non-slip อาจมีการใช้สารเคมีที่มีความพิษ ซึ่งอาจเป็นปัญหาสำหรับสุขภาพหรือสิ่งแวดล้อม การเลือกใช้วัสดุที่มีรายงานความปลอดภัยสูงสุดเป็นสิ่งสำคัญ

♣ การเกิดความเสียหายด้านอื่น: การใช้พื้น PU Non-slip อาจทำให้เกิดความเสียหายด้านอื่น เช่น การทำให้พื้นไม่สามารถหล่นได้อย่างเป็นธรรมชาติ การใช้งานส่วนใหญ่ที่ไม่ได้ต้องการพื้น Non-slip ก็อาจจะไม่เหมาะสม

การดูแลรักษาพื้น PU Non-slip

♣ ทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ: ทำความสะอาด พื้น PU Non-slip อย่างสม่ำเสมอเพื่อล้างความสกปรกและสิ่งสกปรกที่สามารถทำให้พื้นมีความลื่นไถลได้ 

♣ ใช้ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสม: ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้น PU Non-slip เพื่อป้องกันการทำลายผิวของพื้น 

♣ หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เสี่ยงต่อพื้น: หลีกเลี่ยงการใช้สารเคมีที่เสี่ยงต่อผิวพื้น PU Non-slip

♣ รักษาการป้องกัน: รักษาการป้องกันของพื้น PU Non-slip โดยการตรวจสอบและซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดหรือเสียหายโดยทันที เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายที่มากขึ้นในอนาคต

♣ การควบคุมความชื้น: พื้น PU Non-slip ทนทานต่อความชื้น แต่ควรรักษาความแห้งและความสะอาดโดยป้องกันความชื้นที่สามารถทำให้พื้นมีความลื่นไถลได้

ขั้นตอนการทำพื้น PU Non-slip มีขั้นตอนดังนี้

♣ เตรียมพื้น พื้น PU Non-slip:

  1. เตรียมพื้นผิว: ทำความสะอาดพื้นผิวให้สะอาดและแห้งสนิท
  2. เคลือบชั้นรองพื้น (Primer): ในบางกรณีอาจต้องทาชั้นรองพื้นเพื่อเพิ่มการยึดเกาะ
  3. ทา PU Non-slip: ใช้ลูกกลิ้ง แปรง หรือเครื่องพ่นในการเคลือบสาร PU Non-slip บนพื้นผิวที่ต้องการ
  4. รอให้แห้ง: ปล่อยให้สารเคลือบแห้งตามระยะเวลาที่กำหนด (ขึ้นอยู่กับคำแนะนำของผู้ผลิต)

PU Non-slip เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับการป้องกันการลื่นไถล โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีการเดินหรือใช้งานอย่างหนัก ซึ่งต้องการการป้องกันอุบัติเหตุจากการลื่น

       

ต้องเริ่มต้นด้วยการเตรียมพื้นให้พร้อมสำหรับการทำงาน โดยต้องทำความสะอาดพื้นให้สะอาดและเรียบ ในกรณีที่มีรอยร่องรอยหรือความไม่เรียบเนื่องจากการใช้งานมาก่อน ควรทำการโคลนพื้นให้เรียบเนียนก่อน

♣ การเตรียมวัสดุ:

          ในกระบวนการสร้างพื้น PU Non-slip คุณต้องเตรียมวัสดุที่จำเป็น เช่น สารที่ใช้ในการเคลือบพื้น PU Non-slip และเครื่องมือที่จำเป็น

♣ ผสมสารเคลือบ:

          สำหรับสร้างพื้น PU Non-slip ตามสัดส่วนและคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ

♣ การทาสารเคลือบ พื้น PU Non-slip:

          ใช้เครื่องมือที่เหมาะสม เช่น พู่กัน หรือลู่ที่มีแรงดันเพื่อทาสารเคลือบลงบนพื้น โดยพยายามสร้างความเรียบเนียนให้ทั่วพื้น

♣ ปล่อยให้ พื้น PU Non-slip แห้ง:

          ให้สารเคลือบบนพื้นไว้ให้แห้งตามคำแนะนำของผู้ผลิต ซึ่งอาจใช้เวลาตั้งแต่หลายชั่วโมงถึงหลายวัน ขึ้นอยู่กับเคลือบที่ใช้และสภาพอากาศ

♣ การทดสอบ พื้น PU Non-slip:

         หลังจากที่สารเคลือบแห้งแล้ว ควรทดสอบความเรียบเนียนและคุณภาพของพื้น PU Non-slip โดยการทดสอบการเคลื่อนไหวบนพื้น เพื่อให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัยตามมาตรฐานที่กำหนด

พื้น PU Non-slip มีหลายแบบดังนี้

♣  PU Non-slip แบบสีเดียว: พื้นที่ PU Non-slip ที่เป็นสีเดียวมักมีลวดลายที่เป็นเส้นตรงหรือลายกระทัดรัดที่ไม่มีการประยุกต์ใช้สีหลายๆ สี แบบนี้มักมีลักษณะที่เรียบง่ายและมีสไตล์ที่โมเดิร์น

♣ พื้น PU Non-slip แบบลวดลายหรือลายสี: มีพื้น PU Non-slip ที่มีการออกแบบลวดลายหรือลายสีเพื่อเพิ่มความสวยงามและสไตล์ให้กับพื้นที่ เช่น ลวดลายที่เป็นเส้นหรือลายที่มีลวดลายทางศิลปะ เป็นต้น

♣ พื้น PU Non-slip แบบมีต่อเติม: บางครั้งพื้น PU Non-slip อาจมีการต่อเติมวัสดุเสริมเข้าไป เช่น ฟิวส์และโมเสค ซึ่งช่วยเพิ่มความทนทานและความปลอดภัยในการใช้งาน

♣ พื้น PU Non-slip แบบปรับสีหลายสี: มีพื้น PU Non-slip ที่สามารถปรับแต่งให้มีหลากหลายสีได้ ซึ่งช่วยให้สามารถปรับเปลี่ยนสีของพื้นที่ในสถานที่ต่าง ๆ ได้ตามต้องการ

♣ พื้น PU Non-slip แบบมีลวดลายพิเศษ: บางทีมีพื้น PU Non-slip ที่มีการออกแบบลวดลายพิเศษเพื่อให้เข้ากับสถานที่และการใช้งานเฉพาะ ๆ เช่น ลวดลายที่มีโลโก้ของบริษัทหรือลายที่สร้างสรรค์เพื่อเน้นบรรยากาศในสถานที่และสร้างแรงบันดาลใจ